เมื่อดวงดาว มาอยู่ใกล้เรา 2

          ก็มาว่ากันต่อจากตอนที่ 1 ในตอนนี้เราจะมาดูในส่วนของอิทธิพล ของดวงจันทร์ ที่มีผลกระทบกับตัวของเราเองอย่างไรบ้าง
         
           เมื่อเราเห็นการเกิดน้ำขึ้น น้ำลง ซึ่งเกิดขึ้นโดยอิทธิพลจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ ก็จะพออนุมาณได้ว่า แรงดึงดูดจากดวงจันทร์จะต้องส่งผลกระทบได้กับสิ่งของที่เป็นของเหลวที่มีอยู่ในโลกของเรานี้ได้แน่ๆ ไม่เว้นแม้แต่ตัวคน หรือตัวเรานั่นเอง

          แล้วอิทธิพลจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ สร้างผลกระทบกับร่างกายของเราอย่างไร ได้อย่างไร หรือไม่มีผลกระทบเลย นี่แหละ คือเจตนา ของการจัดทำเว็บบล็อก "ดวงดาวและชีวิต (Live On Star)"  

          นำเสนอแนวความคิด สิ่งที่เราได้พบเห็น หรือสิ่งที่ท่านอยากนำเสนอ ก็สามารถใช้เวทีนี้ ได้ จะไม่เน้นรูปแบบมาตรฐานในการนำเสนอใดๆทั้งสิ้น ทั้งการเขียน รูปภาพ วิธีการนำเสนอ ฯ
         
         ทีนี้เราก็มาว่ากันต่อ ในร่างกายของมนุษย์ สัตว์ พืช ล้วนแล้วแต่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก หรือเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ มากกว่า 50 % ขึ้นไปทั้งนั้น เราลองมาดูกันนะครับว่าร่างกายของเรามีส่วนประกอบของน้ำเท่าใดกันแน่

        "ร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ในเลือดมีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 92 ในสมองมีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 85 ถ้าพิจารณาในแต่ละเซลล์จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 60 

              จริง ๆ แล้วน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญและจำเป็นของเซลล์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเซลพืช เซลล์สัตว์ และเซลล์มนุษย์ ทุกเซลล์ล้วนประกอบด้วยน้ำทั้งนั้น ในเซลล์มนุษย์และเซลล์สัตว์มีน้ำประมาณ 2 ใน 3 ของน้ำหนักร่างกาย ในพืชบกมีน้ำประมาณร้อยละ 50–75 ถ้าเป็นพืชน้ำอาจมีน้ำมากกว่าร้อยละ 95 โดยน้ำหนัก

              หน้าที่สำคัญที่สุดของน้ำ คือ เป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาเคมีทุกชนิด ในกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกาย ปฏิกิริยาเคมีในร่างกายทุกชนิดต้องอาศัยน้ำ เซลล์จะไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่มีน้ำ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ กระบวนการการย่อยอาหาร กระบวนการดูดซึมอาหาร และกระบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

              น้ำที่เป็นของเหลวของเลือด ทำหน้าที่ขนส่งอาหารและออกซิเจนให้แก่เซลล์ อีกทั้งนำของเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์มาขับถ่ายออกจากร่างกาย กระบวนการไหลเวียนเลือด และกระบวนการขับถ่ายของเสียในร่างกายไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากน้ำ

                 และน้ำยังทำหน้าที่เป็นตัวช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกายของคนเราให้อยู่ในระดับที่พิเหมาะตลอดเวลา แต่ถ้าเวลาใดที่ร่างกายขาดน้ำ หรือน้ำในร่างกายมีปริมาณลดลงกว่าปกติ อุณหภูมิในร่างกายก็จะสูงขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดๆหนึ่งที่พอเหมาะแก่การจเริญเติบโตของเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ภายในร่างกายของเรา ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุในเบื้องต้นที่จะทำให้เราเกิดอาการไม่สบาย เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาต่อไปนั่นเอง"  

          ก็ตีเสียว่า มากกว่า 80 % ของร่างกายประกอบไปด้วยน้ำ นี่ไงล่ะครับ ที่จะบอกว่า ความอ่อนไหวในผลกระทบที่จะต้องมีขึ้นจากอิทธิพลแรงดึงดูดจากดวงดาว โดยเฉพาะจากดวงจันทร์ ย่อมจะส่งผลได้เป็นอย่างมาก และผลกระทบที่ได้รับ ย่อมมีมากมายอยู่แน่ๆ 
         ลองสังเกตุดูง่ายๆ บางวันเราก็มีความรู้สึกแจ่มใส อารมย์ดี แม้สิ่งต่างๆรอบข้างดูเหมือนจะเลวร้าย เศร้าหมองอยู่ก็ตาม แต่บางครั้งบางครา ความคิดต่างๆ การกระทำต่างๆของเรา รู้สึกว่าจะติดขัด ไปไม่ถึงไหนซักที่ คิดไม่ตก คิดไม่ทะลุปัญหา บางปัญหา เราก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ไม่รู้จะหาทางออก หรือหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ซักที อารมย์ก็บูดเน่า อยากจะหนีไปให้ไกลๆ อย่างนี้เป็นต้น  
         เรื่องผลกระทบต่างๆเหล่านี้ ได้มีการบันทึกไว้ในโลกของเรามานานแล้ว ทั้งเป็นแบบเอกสาร บนหินผาต่างๆ หรือแม้แต่บันทึกเป็นวิธีการปฏิบัติที่สืบทอดต่อๆกันมา ก็มีปรากฎให้เห็นอยู่ทุกวันนี้
         ในทุกวันที่เราเห็นดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้า เราจะเห็นเป็นข้างขึ้น ข้างแรม หรือเห็นเต็มดวงบ้าง เว้าแหว่งบ้าง หรือมืดไปทั้งดวง นั่นเราก็ทราบกันดีว่าเป็นการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ที่หนุนรอบโลกของเรา ในวงรอบละประมาณ 30 วันนั่นเอง ในวงโคจรที่หมุนรอบโลก จะเป็นลักษณะเป็นวงรี ในลักษณะของวงรีนี้นั่นเอง ที่ทำให้ แรงดึงดูดของดวงจันทร์ที่ส่งมายังโลกมีความแตกต่างกันทุกๆวัน เพระาระยะห่างจะถูกเปลี่ยนไปทุกๆวันด้วย ที่เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น น้ำลง ก็น่าจะมาจากสาเหตุนี้นั่นเอง
          
      ก็ต้องขออณุญาต พักตอนก่อนนะครับ ตอนต่อไปก็ค่อยมาว่ากันต่อในเรื่องราวที่แรงดึงดูดของดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ มีผลกระทบกันสิ่งมีชีวิตต่างๆ อย่างไรบ้าง

ขอขอบคุณทุกท่าน เข้มาใช้บริการ

โชคดี มีชัย สุขภาพดีทุกท่าน สวัสดีครับ

เมื่อดวงดาว มาอยู่ใกล้เรา 1

   เมื่อดวงดาวหลายๆดวง รวมกันเป็นจักรวาล
   ในดวงดาวทั้งหลาย คงไม่มีดาวดวงใดเลย ที่มีขนาด และมวลสารต่างในดวงดาวเหล่านั้นเหมือนกัน
   เมื่อโลกก็เป็นดวงดาวดวงหนื่ง แล้วตัวของเราก็ออาศัยอยู่บนพื้นผิวของดวงดาวที่มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เรารู้กันดีก็คือ การหมุนรอบตัวเอง ตลอดเวลา ถ้าเราสมมติตัวเราเป็นตัวหมัดตัวเล็กๆ ไปเกาะอยู่ข้างๆแทงค์น้ำกลม ที่แขวนและหมุนรอบตัวตลอดเวลา หมัดตัวนั้นคงจะเวียนหัวน่าดู จะเดินไปไหนมาไหนคงต้องได้ระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะกลัวจะหลุดจากพื้นผิวของแทงค์น้ำนั้นแน่ๆ

     ก็คงเปรียบได้กับตัวเราที่เกาะอยู่กับผิวโลกนั่นเอง แต่แทงค์น้ำต่างกันกับโลกคือ โลกมีแรงดึงดูดอยู่ในตัวแต่แทงค์น้ำไม่มีแรงดึงดูดนั่นเอง ทุกสิ่งจึงถูกดูดอยู่กับผิวโลกตลอดเวลา ไม่ถูกเหวี่ยงหลุดหายไปที่อื่นได้
      ที่เปรียบเทียบมานี้ อยากจะให้เห็นว่า ดวงดาวทุกๆดวง ก็คงจะมีแรงดึงดูดประจำตัวเองเหมือนกันทั้งสิ้น เพียงแต่แรงดึงดูดจะต่างกัน มากน้อยต่างกันไปนั่นเอง

     อยากจะยกตัวอย่างดวงดาวที่เราเห็นใด้ชัดเจน และอยู่ใกล้โลกเรามากที่สุด ก็คือ ดวงจันทร์นั่นเอง

     ดวงจันทร์ มีแรงดึงดูดน้อยกว่าโลกเราหลายเท่า แต่ส่งแรงดึงดูดมายังโลกเราได้แรงมากๆ ที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องของ น้ำขึ้น น้ำลง ที่เรารู้เราพบได้ทุกวันนั่นเอง
      อิทธิพลแรงดึงดูดของดวงจันทร์ ที่ส่งผลกระทบกับโลก และชีวิตของคนเราน่าจะมีมากมายอยู่ เอาไว้ว่ากันในตอนต่อไปนะครับ

วันนี้คงคุยกันแค่นี้ก่อน ตอนต่อไปจะได้มาชี้ให้เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดใกล้ๆตัวเรา มากยิ่งขึ้นต่อไป

ขอบคุณครับ
โชคดีทุกท่านครับ  สวัสดี

ความหมาย และที่มาของชื่อบล็อก "ดวงดาวและชีวิต" (live On Star)

"ดวงดาวและชีวิต" (live On Star)
   
     ดวงดาว และชีวิต จะเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าว่า ดวงดาว ที่มีอิทธิพล หรือส่งผลกระทบกับชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่บนโลกของเราอย่างไรบ้าง

     บล็อกนี้ ผู้จัดทำได้ตั้งใจใว้ว่า จะใช้เป็นที่เก็บสะสมเพื่อเผยแพร่เรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้พานพบมาในชีวิต ที่มีทั้งเรื่องราวใกล้ตัว ที่ประสบมาเอง บอกเล่าจากคนรู้จัก หรือเรื่องที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ซึ่งผ่านการขออนุญาตเผยแพร่จากเจ้าของแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรื่องราวที่นำเสนอนั้น ควรที่จะมีการอ้างอิง วัน น. เวลา ว. เดือน ปี ประกอบ เพื่อจะได้ตรงตามชื่อของบล็อกนั่นเอง

    โดยเปิดให้ทุกท่านร่วมเขียนบล็อก หรือร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เพียงแต่ต้องขอความร่วมมือในการเขียน หรือแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพ และยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นหลัก งดเว้นการแสดงความคิดเห็นที่จะเกิดผลกระทบกับสังคมโดยรวม ประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา การเมือง และสถาบันหลักของชาติ การหมิ่นประมาท การทะเลาะวิวาท การทำให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสีย เสียหาย การกระทำผิดกฎหมายต่าง เหล่านี้ จะไม่สามารถนำเสนอแก่สาธารณะได้

ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการติดตาม สำหรับวันนี้ เป็นวันแรกของการเริ่มต้นเปิดบล็อก ก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง พบกันใหม่ในโพสต์ต่อไป

สวัสดีครับ